วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อการย้ายนักศึกษาบางโปรแกรมวิชา จากคณะครุศาสตร์ ไปคณะอื่น

ความคิดเห็นของนักศึกษา

ความคิดเห็นของนักศึกษา

เรียนคณะผู้บริหารที่เคารพ

ข้าพเจ้าในนามของตัวแทนนักศึกษา ขออนุญาติผู้บริหารชี้แจ้งและเสนอข้อเสนอข้อคิดเห็นที่เกี่ยวกับการย้ายสังกัดคณะของนักศึกษาบางโปรแกรมวิชา ซึ่งจากการที่ข้าพเจ้าได้ทราบเรื่องดังกล่าวและได้ปรึกษาหารือกับพี่น้องนักศึกษา สรุปได้ว่า ไม่เห็นด้วยกับการย้ายสังกัดคณะ ด้วยเหตุผลดังนี้

การที่ข้าพเจ้าได้มาเรียนที่คณะครุสาสตร์ส่วนหนึ่งเพราะชื่อเสียงของคณะที่สามารถผลิตครูได้อย่างเข้มแข็งรุ่นพี่ที่จบออกไปต่างยกย่องชื่นชม และแนะนำให้มาเรียนที่นี่

การย้ายสังกัดคณะแน่นอนว่าจะไม่มีผลเสียอะไร ไม่ว่าจะเป็นวุฒิที่ได้รับยังเป็นคณะครุศาสตร์บัณฑิต อาจารย์ดูแลนักศึกษาได้ง่ายขึ้น การบริหารจัดการ งบประมาณ การติดต่อประสานงานมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

แต่เมื่อย้อนหลับมาดูว่าทำไมการบริหารจัดการระหว่างคณะไม่สะดวก มีปัญหาเรื่องการงบประมาณ การจัดกิจกรรมหรือจะทำอะไรก็มีปัญหา และทำด้วยความอยากลำบากหรือแม้แต่การใช้วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือในการเรียนรู้ยังเป็นปัญหา ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะอะไร คำตอบคือ อาจารย์ไม่สามารถทำงานร่วมกันระหว่างคณะได้หรือพูดง่ายๆ อาจารย์มีปัญหากันระหว่างคณะนั่นเอง

เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงอยากให้ผู้บริหารมองถึงจุดนี้ ปัญหาเกิดขึ้นที่ไหนก็ควรไปแก้ที่นั่น ถ้าปัญหาเกิดขึ้นที่คณะครุศาสตร์ก็ควรแก้ที่ครุศาสตร์ เมื่อสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ อาจารย์ก็สามารถแก้ปัญหาทำงานร่วมกันได้ สิ่งต่างๆที่เป็นปัญหาก็จะง่ายขึ้น

เมื่อพูดถึง TQF แต่ละสาขาต้องมีอาจารย์ประจำหลักสูตรตามที่กำหนดและมีคุณภาพ ข้าพเจ้าคิดว่าการย้ายนักศึกษาเป็นเพียงแค่วิธีหนึ่งเท่านั้น( ไม่ดีเลย ) ถามว่าการย้ายอาจารย์มาได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะปัญหาเรื่องอาจารย์อีก ทั้งๆที่อาจารย์ในคณะอื่นๆก็จบสายครูมาเยอะแต่ไม่ยอมย้ายมาอยู่คณะครุศาสตร์ จุดนี้แหละคือปัญหา ถ้าอาจารย์ยอมมาอยู่คณะครุศาสตร์ก็จบ แต่อาจารย์ไม่ยอมมาเลยย้ายนักศึกษาแทน จะได้หมดเรื่องใช่ไหมครับ! หรือถ้าผู้บริหารแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้จริงๆ ก็บรรจุอาจารย์ให้คณะครุศาสตร์ไม่ได้หรือ

แต่ที่จริงแล้ว TQF ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลยขอเพียงแค่อาจารย์ในมหาวิทยาลัย ประสานและร่วมมือกันช่วยกันเรื่อง TQF ก็จะไม่มีปัญหา

การที่ผู้บริหารอ้างถึง มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ราชภัฏเพชรบุรี ว่าจัดการศึกษาแบบนี้ดี แต่จากการสำรวจข้อมูลพบว่า เกิดปัญหาต่างๆมากหมายตามมา โดยเฉพาะนักศึกษาคณะครุศาสตร์ที่เหลืออยู่ และคณะครุศาสตร์ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างเพชรบุรี ตอนนี้แทบจะไม่เป็นคณะแล้ว ต่อไปคณะครุศาสตร์คงเหลือแต่ป้าย และนับวันนี้จอมบึงกำลังจะเป็นเช่นนั้นใช่ไหม

ปัจจุบันนี้คณะครุศาสตร์ ถูกมองว่าจัดการศึกษาไม่ได้คุณภาพ นั้นหมายความว่าคณะอื่นจัดการศึกษาได้ดีกว่าใช่ไหม ซึ่งสิ่งที่ยืนยันว่าคณะครุสาสตร์จัดการศึกษาไม่มีคุณภาพจริงๆ คือ การให้คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจัดทำหลักสูตรครูพันธุ์บึง ถ้าเป็นเช่นนี้คณะครุศาสตร์จะทำอำไร ( ยุบเลยไหม) แต่ไม่เป็นไรถึงแม้มหาวิทยาลัยไม่เห็นคุณค่า แต่คณะครุศาสตร์ของเราได้ประกาศความยิ่งใหญ่ไปแล้ว โดยได้ผ่านการคัดเลือกครูพันธุ์ใหม่ทุกโปรแกรมที่ส่งไปซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่มหาวิทยาลัยที่ได้รับการพิจารณาหมดเลย หมายถึง หากใครคิดว่าคณะครุศาสตร์ไม่ได้คุณภาพโปรดคิดเสียไหม

เมื่อกล่าวถึงทุนครูพันธุ์ใหม่ซึ่งตอนนี้คณะครุศาสตร์ผ่านเรียบร้อยแล้ว และโอกาสได้ก็ 99% แล้วด้วยและจากการที่คณะครุศาสตร์ได้ผ่านการประเมินครั้งนี้จะเป็นผลดีในการพิจารณาครูพันธุ์ใหม่ของน้องๆที่เข้า ปี 1 ด้วยแต่เมื่อมีการย้ายคณะเกิดขึ้นจะมีใครรับประกันได้ว่านักศึกษาที่โดนย้ายหรือน้องๆที่เข้ามาจะได้รับการพิจารณาอย่างแน่นอน อีกอย่างที่อยากจะฝากท่านผู้บริหาร คือ การที่ให้ท่านคณาจารย์ไปกล่าวหากัน เพื่อต้องการนักศึกษาและแสดงความเป็นเจ้าของ โดยใช้เสียงส่วนใหญ่มันไม่ใช่วิธีที่ดีจริงๆ ยิ่งสร้างความแตกแยกความรู้สึกที่ไม่ดีให้แก่กัน ข้าพเจ้าขอความกรุณาให้แก้ปัญหาตรงจุดนี้ด้วย

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ปัญหาหลักๆไม่ใช่อะไรเลย ปัญหาหลักๆ คือปัญหาการทำงานระหว่างคณะ ที่ไม่สามารถคุยกัน ร่วมมือกัน ทำงานร่วมกันไม่ได้ จุดนี้แหละคือปัญหาหลัก ส่วน TQF ไม่ใช่ปัญหาเลย ถ้าอาจารย์ร่วมมือกัน

ดังนั้นข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คณะผู้บริหารจะนำข้อมูลดังกล่าวข้างต้นมาพิจารณาและทบทวนในสิ่งที่ท่านกำลังดำเนินการอยู่เพื่อให้มหาวิทยาลัยของเราเจริญก้าวหน้าต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ด้วยความเคารพอย่างสูง

กลุ่มนักศึกษา

ความคิดเห็นของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบางแห่ง

ความคิดเห็นของอาจารย์

( อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม , รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี)

มหาวิทยาลัยของเราแต่ก่อนก็คือวิทยาลัยครู ซึ่งมีหน้าที่ผลิตครูโดยตรงต่อมาก็มีคณะอื่นๆ เติบโตขึ้นมารวมทั้งคณะครุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็ผลิตบัณฑิตทางวิทยาศาสตร์ ครุศาสตร์ก็มีหน้าที่ผลิตครู ซึ่งครุศาสตร์เองก็ถูกจำลองมาจากวิทยาลัยครู ดังนั้นเมื่อพิจารณาดูแล้วแต่ละคณะก็ต้องผลิตบัณฑิตตามศาสตร์ของตนเจริญเติบโตและพัฒนาตามแนวทางปรัชญาวิสัยทัศน์และพันธกิจของตน ซึ่งการที่จะให้คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ผลิตครูนั้นก็คงไม่สมควร ให้วิทยาลัยพยาบาลผลิตวิชาชีพอื่นที่ไม่ใช่พยาบาลก็คงจะไม่ถูกเช่นกัน ดังนั้นครุศาสตร์ก็ต้องมีหน้าที่หลักในการผลิตครูและนักศึกษาที่เรียน คบ.ก็ต้องอยู่ครุศาสตร์

การที่ให้นักศึกษา คบ. ไปอยู่กับคณะอื่นนั้นจะส่งผลกระทบกับตัวนักศึกษา เช่น นักศึกษาทำอะไรไม่ได้ สับสน รู้สึกถูกทอดทิ้ง รู้สึกเงียบเหงา รู้สึกลำบากใจที่จะบอกว่าตัวเองจบคณะอะไร ได้รับวุฒิอะไร การทำกิจกรรมก็ไม่ค่อยสะดวก นักศึกษาอยู่ต่างคณะ ไม่ได้หล่อหลอมความเป็นวิชาชีพ และที่สำคัญคณะครุศาสตร์แทบจะไม่เหลืออะไรเลย

เรื่อง TQF ไม่ใช้ปัญหาเพราะขอให้อาจารย์ในหมาวิทยาลัยมีความร่วมมือกัน ช่วยกันจัดทำหลักสูตรให้มีความเข้มแข็งและตรงตามกับกรอบมาตรฐานแค่นี้ก็จะไม่มีปัญหาแล้ว และไม่จำเป็นว่านักศึกษาและอาจารย์จะต้องอยู่คณะเดียวกัน ขอให้ทุกอย่างเกิดจากความร่วมมือ ความสามัคคีกันทุกอย่างก็จะไม่เป็นปัญหา

ความคิดเห็นของอดีตผู้บริหาร

ความคิดเห็นของอดีตผู้บริหาร และศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง

การจัดการศึกษาสายครูจะต้องมีความเข้มแข็ง และมีจิตวิญญาณในความเป็นครู เพราะครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ดังนั้นสาขาใดก็ตามที่เป็นครูจะต้องอยู่ครุศาสตร์ เพราะครุศาสตร์มีหน้าที่ผลิตครู และการที่จะมีการเปลี่ยนแปลงให้นักศึกษาบางสาขาวิชาที่อยู่คณะครุศาสตร์ย้ายไปอยู่คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ซึ่งนักศึกษาเหล่านี้เรียนสายครูแต่ให้ไปอยู่คณะอื่นคงไม่เหมาะสมนัก ก็เข้าใจนะว่านักศึกษาแต่ละสาขาวิชาส่วนมากจะเรียนวิชาเอกมากกว่าวิชาความเป็นครู แต่เราจะเอาตรงนั้นมาตัดสินไม่ได้ เพราะวิชาชีพครูจะฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณของนักศึกษาที่ต้องการเรียนคณะครุศาสตร์แล้วจะมาเป็นครู

ถ้าย้อนถึงแต่ก่อนมหาวิทยาลัยของเราเป็นวิทยาลัยครู ซึ่งจัดการศึกษาเป็นภาควิชาต่อมาเมื่อมีความเจริญ การแข่งขันและความต้องการเข้ามาจึงเกิดคณะต่างๆขึ้น เพื่อผลิตบัณฑิต แต่คณะครุศาสตร์ก็ยังมีหน้าที่ผลิตครู โปรแกรมวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ จะอยู่คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาจารย์ประจำเอกจะอยู่คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ทางวิชาชีพครูครุศาสตร์ก็ดูแลให้ ภาษาไทยกับสังคมก็อยู่คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ อาจารย์ประจำเอกก็อยู่คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะครุศาสตร์ก็ดูแลในวิชาชีพครู พูดง่ายๆก็คือมีการร่วมมือระหว่างคณะ ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็ผลิตทั้งคบ.ด้วย วทบ.ด้วย คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ก็ผลิตทั้ง คบ.ด้วย และ ศศบ.ด้วย ซึ่งจะไม่ลงลึกในด้านใดด้านหนึ่งจึงทำให้เกิดปัญหาด้านการบริหารจัดการ ดังนั้นเมื่อ 6-7 ปีที่แล้วจึงมีการโยกย้ายให้งานผลิตครูทั้งหมดให้ครุศาสตร์เป็นผู้ดำเนินการ แต่การเรียนการสอนในวิชาเอกก็ให้อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์เป็นผู้ดูแล จึงต้องสอนด้วยการบูรณาการซึ่งการสอนแบบนี้ทำให้นักศึกษามีความสามารถทั้งการสอน ความสามารถในวิชาเอกของตนเอง

แต่การปรับเปลี่ยนในปัจจุบันกำลังดำเนินการอยู่นี้เป็นการปรับเปลี่ยนการกลับไปสู่ยุคสถาบันราชภัฏ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอันตราย เนื่องจากนักศึกษาโดนดึงกลับไปคณะเดิม เหมือนตอนสถาบันราชภัฏจะทำให้ความลึกซึ้งในกระบวนการพัฒนาครู จะถูกแยกสลายผลเสียเกิดแก่ตัวนักศึกษาเพราะเคยเกิดมาแล้วเมื่อ 6-8 ปีก่อน

อดีตผู้บริหารและศิษย์เก่าต่างเห็นพ้องต้องกันว่านักศึกษาสายครูต้องอยู่คณะครุศาสตร์ แต่การจัดการเรียนการสอนก็ต้องจัดแบบบูรณาการคือขอความร่วมมือจากอาจารย์ที่เกี่ยวข้อง ถ้าอยู่ต่างคณะ และสิ่งสำคัญที่อดีตผู้บริหารไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ การให้อาจารย์แต่ละคณะมานั่งถกเถียงกันสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีระหว่างคณะและมีการตัดสินด้วยการโหวดซึ่งอดีตผู้บริหารเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องงานวิชาการ ซึ่งการตัดสินด้วยวิธีนี้ไม่ดี ใครเขาทำกันการที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไปนั้นอาจารย์จะต้องมีการประสานและร่วมมือกันระหว่างคณะไม่ใช้มาทะเลาะกันเอง และให้ยึดนักศึกษาเป็นศูนย์กลาง และช่วยกันพัฒนามหาวิทยาลัยให้เจริญยิ่งขึ้น


Background.MyEm0.Com